10 Checklist ต้องรู้ ก่อนจ้างบริษัทออกแบบบูธแสดงสินค้า
การออกบูธแสดงสินค้าเปรียบเสมือนการสร้างหน้าร้านชั่วคราวที่ทรงพลังที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) นำเสนอสินค้าและบริการ ไปจนถึงการสร้างยอดขายและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ แต่หัวใจสำคัญที่จะทำให้บูธของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จได้นั้น เริ่มต้นตั้งแต่ก้าวแรก นั่นคือ “การเตรียมตัว” ก่อนจ้างบริษัทออกแบบบูธแสดงสินค้า
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบบูธแสดงสินค้าและรับออกแบบบูธทุกรูปแบบ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี Geddesign เข้าใจดีว่าผู้ประกอบการหลายท่านอาจไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน เราจึงได้รวบรวมประสบการณ์ทั้งหมด กลั่นกรองออกมาเป็น Checklist 10 ข้อสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมได้อย่างมืออาชีพ ทำให้การทำงานร่วมกับบริษัทออกแบบบูธเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ผลงานที่ตรงใจ และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด
- 7 เทคนิคออกแบบบูธแสดงสินค้า ดึงดูดลูกค้า เพิ่มยอดขายทันที
- ทำไมการออกแบบบูธแสดงสินค้าที่ดี ถึงสร้างความสำเร็จได้?
- ออกแบบบูธแสดงสินค้าสุดล้ำเพิ่มยอดขายในงานอีเวนต์

Checklist 10 ข้อ เตรียมพร้อมก่อนจ้างบริษัทรับออกแบบบูธ
การเตรียมข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนตั้งแต่แรก จะช่วยให้ทีมรับออกแบบบูธสามารถตีโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำ และสร้างสรรค์บูธที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง
- กำหนดวัตถุประสงค์ของการออกบูธให้ชัดเจน (Define Clear Objectives)
ก่อนจะเริ่มออกแบบ สิ่งแรกที่ต้องตอบให้ได้คือ “เราออกบูธไปเพื่ออะไร?” วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันจะนำไปสู่การออกแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น
- เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) เน้นการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่น เป็นที่จดจำ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ
- เพื่อสร้างยอดขาย (Sales) ต้องมีพื้นที่จัดแสดงสินค้าที่ชัดเจน พื้นที่สำหรับปิดการขาย และโปรโมชั่นที่ดึงดูด
- เพื่อหาลูกค้าใหม่ (Lead Generation) ต้องมีพื้นที่สำหรับพูดคุย ให้คำปรึกษา และมีกลไกในการเก็บข้อมูลผู้สนใจ
- เพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ (Product Launch) การออกแบบต้องส่งเสริมให้สินค้าใหม่เป็นพระเอกของงาน
- กำหนดงบประมาณทั้งหมด (Set a Total Budget)
งบประมาณไม่ใช่แค่ค่าออกแบบและก่อสร้าง แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ด้วย ควรแจกแจงให้ชัดเจน เช่น
- ค่าจ้างบริษัทออกแบบและก่อสร้างบูธ
- ค่าเช่าพื้นที่จัดแสดง
- ค่าระบบไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต
- ค่าจ้างพนักงานดูแลบูธ (Pretty/MC)
- ค่ากิจกรรมส่งเสริมการขายและของสมนาคุณ การมีงบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยให้บริษัทออกแบบบูธขายของสามารถเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นไปได้จริง

- ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร (Identify Your Target Audience)
บูธของคุณต้องการดึงดูดใคร? ลูกค้าทั่วไป (B2C) หรือลูกค้าธุรกิจ (B2B)? กลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มผู้บริหาร? การออกแบบ สีสัน และภาษาที่ใช้ในการสื่อสารต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่า “บูธนี้มีบางอย่างสำหรับฉัน”
- เตรียมข้อมูลแบรนด์และสินค้า (Prepare Brand & Product Information)
ส่งมอบ Brand Guideline (Corporate Identity – CI) ที่ชัดเจนให้กับทีมออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้, ชุดสี, รูปแบบตัวอักษร และ Key Message สำคัญของแบรนด์ รวมถึงข้อมูลสินค้าหรือบริการที่เป็นไฮไลท์ ต้องการนำเสนออะไรเป็นพิเศษ เพื่อให้การออกแบบสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์
- ข้อมูลขนาดและตำแหน่งของบูธ (Know Your Booth Size & Location)
ขนาดพื้นที่ (กว้าง x ยาว x สูง) และตำแหน่งของบูธเป็นข้อมูลที่ขาดไม่ได้ บูธหัวมุม (Corner), บูธแบบเปิด 3 ด้าน (Peninsula), หรือบูธแบบเกาะ (Island) ล้วนมีข้อดีและข้อจำกัดในการออกแบบที่แตกต่างกัน ข้อมูลนี้จะช่วยให้นักออกแบบสามารถวางผัง (Layout) และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ

- ศึกษาข้อกำหนดของผู้จัดงาน (Review Organizer’s Regulations)
งานแสดงสินค้าแต่ละงานมีกฎระเบียบที่แตกต่างกัน เช่น ความสูงของโครงสร้าง, ประเภทของวัสดุที่ใช้ได้, ข้อจำกัดด้านเสียงและแสง การแจ้งข้อกำหนดเหล่านี้ให้บริษัทออกแบบทราบตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันปัญหาการแก้ไขแบบหรือการรื้อถอนหน้างาน ซึ่งทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
- กำหนดฟังก์ชันการใช้งานภายในบูธ (Determine Booth Functionality)
ลิสต์รายการฟังก์ชันที่ต้องการให้เกิดขึ้นภายในบูธ เช่น
- โซนจัดแสดงสินค้า (Display Zone)
- โซนสาธิตสินค้า (Demonstration Area)
- เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (Information Counter)
- ห้องเก็บของ (Storage Room)
- พื้นที่รับรองลูกค้า/โซนพูดคุยธุรกิจ (Meeting Area)
- มุมกิจกรรม (Activity Corner)
- รวบรวมแรงบันดาลใจและสไตล์ที่ชอบ (Gather Inspiration & Style Preferences)
ลองหาภาพบูธสวยๆ หรือสไตล์การออกแบบที่ชื่นชอบ (Mood Board & Tone) จากอินเทอร์เน็ต เช่น Pinterest หรือจากงานแสดงสินค้าอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นให้ทีมออกแบบเข้าใจภาพในใจของคุณได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

- แต่งตั้งผู้ประสานงานหลัก (Appoint a Key Contact Person)
เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ควรมีการแต่งตั้งผู้ประสานงานหลักเพียง 1-2 คน ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ข้อมูลและอนุมัติแบบต่างๆ ลดความสับสนและความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น
- วางแผนกิจกรรมและการตลาดในบูธ (Plan In-Booth Activities & Marketing)
คุณมีแผนจะทำกิจกรรมอะไรในบูธบ้าง? เช่น การแจกของรางวัล, การเล่นเกม, การจัดโปรโมชั่นพิเศษ, หรือการเชิญ Influencer มาร่วมงาน การออกแบบบูธที่ดีควรต้องรองรับและส่งเสริมกิจกรรมเหล่านี้ให้โดดเด่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวที่ดีตาม Checklist ทั้ง 10 ข้อนี้ คือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนการลงทุนออกแบบบูธแสดงสินค้า ของคุณให้กลายเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณได้บูธที่สวยงามและสะท้อนตัวตนของแบรนด์ แต่ยังเป็นบูธที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ ดึงดูดลูกค้า และสร้างโอกาสในการขายได้อย่างมหาศาล
Geddesign พร้อมเป็นที่ปรึกษาและพาร์ทเนอร์ที่ช่วยคุณสร้างสรรค์บูธแสดงสินค้าที่ประสบความสำเร็จ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีและความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เราพร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของคุณให้กลายเป็นความจริงที่จับต้องได้
บริษัท เก็ดดีไซน์ แอนด์ โปรดักชั่นส์ จำกัด เรารับออกแบบบูธแสดงสินค้า ผลิตบูธแสดงสินค้า ออกแบบบูธขายของ รับออกแบบร้านค้า รับจัดบูธแสดงสินค้าครบวงจร ตกแต่งร้านค้าภายในห้างได้ทุกรูปแบบ เรารับออกแบบบูธราคามิตรภาพ และติดตั้งบูธแสดงสินค้าจบครบในที่เดียว ถ้าหากว่าคุณอยากได้งานออกแบบบูธแสดงสินค้าสวย ๆ มีคุณภาพ ให้นึกถึงพวกเรา Geddesign ค่ะ
หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับออกแบบบูธมืออาชีพที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาเบื้องต้นได้เลยวันนี้!
โทร.089-205-8390
Line OA : @gedgroup
Facebook :https://www.facebook.com/GEDDesign/